ขายบ้านหรือคอนโดได้แล้วต้องเสียภาษีอะไรบ้าง? หลักๆที่ต้องเสียคือ ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย และ ภาษีธุรกิจเฉพาะ ในส่วนของภาษีธุรกิจเฉพาะจะคิดที่ 3.3% ของราคาประเมินหรือราคาขายให้ใช้ราคาที่สูงสุด แต่จะได้รับการยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีต่อเมื่อ ครอบครองบ้าน หรือคอนโดเกิน 5 ปี มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านเกิน 1 ปี ได้รับบ้านหรือคอนโดมาโดยมรดก และถูกเวนคืนบ้านหรือที่ดิน
เสียภาษีหักเงินได้หัก ณ ที่จ่าย อย่างไร? การคำนวณภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย จะใช้ราคาประเมินจากกรมที่ดินไม่ได้ใช้ราคาจริงของราคาที่ขายได้ เมื่อได้ ราคาประเมินแล้วจะหักด้วยค่าใช้จ่ายสองกรณี 1) บ้านหรือคอนโดที่ได้มาโดยมรดก หักค่าใช้จ่ายได้ 50% 2) บ้านหรือคอนโดที่ได้มาโดยการซื้อขาย หักค่าใช้จ่ายตามจำนวนปีที่ถือครอง โดยนับตามปี พ.ศ.
จำนวนปีที่ถือครอง |
1 |
2 |
3 |
4 |
5 |
6 |
7 |
8 ปีขึ้นไป |
ร้อยละของเงินได้ |
92 |
84 |
77 |
71 |
65 |
60 |
55 |
50 |
เมื่อหักค่าใช้จ่ายแล้วเหลือเท่าไร ให้หารด้วยจำนวนปีที่ถือครอง ก่อนคำนวณตามฐานภาษี แล้วคูณด้วยจำนวนปีที่ถือครองอีกครั้งจะได้ภาษีหัก ณ ที่จ่าย ตามตารางคำนวณด้านล่างนี้
ขึ้นเงินได้สุทธิตั้งแต่ |
ช่วงเงินได้สุทธิแต่ละขั้น |
อัตราภาษี (%) |
0-300,000 บาท |
300,000 บาท |
5 |
300,001-500,000 บาท |
200,000 บาท |
10 |
500,001-750,000 บาท |
250,000 บาท |
15 |
750,001-1,000,000 บาท |
250,000 บาท |
20 |
1,000,001-2,000,000 บาท |
1,000,000 บาท |
25 |
2,000,001-4,000,000 บาท |
2,000,000 บาท |
30 |
ตั้งแต่ 4,000,001 บาทขึ้นไป |
|
35 |
นอกจากภาษีทั้งสองส่วนยังมีค่าใช้จ่ายอะไรอีก? 1) ค่าอากรแสตมป์คำนวณจากราคาประเมินหรือราคาขาย โดยใช้ราคาที่สูงกว่าคำนวณในอัตรา ร้อยละ 0.5 ในส่วนนี้ผู้ขายจะเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด ส่วนการยกเว้นค่าอากรนั้นจะสามารถทำได้ก็ต่อเมื่อเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ 2) ค่าธรรมเนียมการโอนจะเสียในอัตราร้อยละ 2 จากราคาประเมิน โดยส่วนนี้จะขึ้นอยู่กับการตกลงของผู้ซื้อและ ผู้ขายว่าใครจะเป็นคนจ่าย หรือจ่ายคนละครึ่ง
ดังนั้นในช่วงเศรษฐกิจฝืดเคืองหากใครคิดจะขายบ้านหรือคอนโด อย่าลืมแบ่งค่าใช้จ่ายในการเสียภาษี ไว้ด้วยส่วนนึงนะครับ
|