3 ข้อต้องรู้ก่อนลงทุนเพื่อที่คุณจะได้ไม่เป็นเหยื่อ “แชร์ลูกโซ่”

โดย

 


 
3 ข้อต้องรู้ก่อนลงทุนเพื่อที่คุณจะได้ไม่เป็นเหยื่อ “แชร์ลูกโซ่”

         

         1. รู้ว่าเรากำลังลงทุนในอะไร? ลองเช็กดูว่า เรากำลังลงทุนอะไรอยู่ ตรวจสอบข้อมูลได้มากแค่ไหน สินทรัพย์ที่ลงทุนเป็นแบบไหน รูปแบบธุรกิจเป็นอย่างไร มันมีรายละเอียดที่มากพอให้เราเข้าใจหรือเปล่า เพราะส่วนใหญ่รูปแบบการลงทุนของแชร์ลูกโซ่ มักจะเอาธุรกิจอื่นมาบังหน้า ที่พบบ่อย คือ ธุรกิจขายตรง แต่สินค้าคืออะไรก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าต้องลงทุนหาสมาชิกเรื่อยๆ นอกจากนั้น ก็อาจจะเป็นการชวนลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูง เช่น ถือหุ้นในบริษัทที่จะจดทะเบียนในต่างประเทศ หรืออัตราแลกเปลี่ยนเงินต่างประเทศ (FOREX) เทรดออนไลน์ (คริปโตเคอเรนซี) หรืออะไรก็ตามที่ฟังดูแล้วน่าเร้าใจ และได้ผลตอบแทนสูงมาก ดังนั้น สิ่งที่ควรเอะใจ เวลาถูกชวนให้ลงทุนพวกนี้ คือ การตั้งคำถามระหว่างผลตอบแทนที่ได้รับ ว่าเป็นไปตามที่คิดไว้ได้จริงหรือไม่? และอะไรที่ผลตอบแทนสูงเกินไป หรือลงทุนได้ง่ายเกินไป พวกนี้มักจะมีกลิ่นของความไม่ปลอดภัย ต่อเงินในกระเป๋าของเราอยู่เสมอ

         2. เช็กขั้นตอนการสมัครว่าง่ายไปไหม อย่างน้อยการที่เราจะเอาเงินไปฝากใครให้ดูแลนั้น มันไม่น่าจะจบแค่โอนเงินเข้าบัญชีแล้วได้เลย หรือมีระบบที่ดูน่าเชื่อถือแล้วใช้งานได้ (มักจะเป็นรูปแบบออนไลน์ ผ่านเว็บไซต์) ถ้ามองในมุมการลงทุน ควรมีความน่าเชื่อถือตั้งแต่เริ่มต้น ไม่ว่าจะเป็นการเปิดบัญชี หลักฐานเอกสารยืนยันตัวตน การตรวจสอบต่างๆ ควรจะมีให้เห็นชัดเจน เช่น การลงทุนในกองทุนรวมที่เราซื้อขายมัน ซึ่งต้องมีทั้งแบบประเมินความเสี่ยงจากการลงทุน หน่วยงานกำกับดูแล ขั้นตอนในการเปิดบัญชี หรือธุรกรรมต่างๆ ต้องชัดเจน เพื่อประโยชน์ของทั้งสองฝ่าย ดังนั้น ถ้าหากลองขอรายละเอียดการเปิดบัญชีมาดูแล้วพบว่า ต้องการแค่ชื่อ อีเมล เลขที่บัญชี โดยไม่ต้องมีหลักฐานอะไร ไม่มีการตรวจสอบอะไรที่เชื่อถือได้เลย ให้สันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่า มันง่ายเกินไปไหม และเราจะไว้ใจเขาได้จริงหรือเปล่า?

         3. ตรวจสอบความน่าเชื่อถือในการลงทุนให้เป็น เช่น มีการขึ้นทะเบียนกับหน่วยงานของภาครัฐไหม มีใครกำกับดูแลอยู่หรือเปล่า สามารถตรวจสอบข้อมูลการขึ้นทะเบียนกับสำนักงาน คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) หรือในกรณีเป็นการลงทุนธุรกิจ ก็ควรมีข้อมูลธุรกิจจดทะเบียนที่ถูกต้อง โดยเราสามารถตรวจสอบการจดทะเบียน หรืองบการเงินของบริษัทที่ชักชวนให้ร่วมลงทุนได้ที่ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ด้วยตัวเองครับ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่หลายคนพลาดจากเรื่องนี้ คือ มักจะมาจากความไว้ใจของผู้ชักชวน ไม่ว่าจะเป็นญาติพี่น้อง คนในครอบครัว เพื่อนสนิท หรือบุคคลที่น่าเชื่อถือ ดังนั้น อย่าเชื่ออะไรง่ายๆ และอย่าคิดว่า มันทำได้จริง โดยที่ไม่ตรวจสอบข้อมูลต่างๆ ให้ดีเสียก่อน

         แต่เอาเข้าจริงก็ควรอยู่บนพื้นฐานที่สำคัญ คือ ความรู้ ความเข้าใจว่า เรากำลังลงทุนในอะไร ผลตอบแทนควรเป็นแค่ไหน เพราะถ้าวิธีลงทุนได้เงินง่ายๆ มีอยู่จริง ทำไมคนอื่นเขาไม่ทิ้งสิ่งที่ทำอยู่ แล้วไปลงทุนทั้งหมด สุดท้ายขอฝากไว้ว่า เงินทองเป็นของหายาก ต้องลำบากหามา ก็อย่าปล่อยไปง่ายๆ โดยที่ไม่ไตร่ตรองให้ดี ถ้าเข้าข่ายน่าสงสัย ก็อย่าลืมใช้ 3 ข้อที่ว่ามานี้ เช็กให้ดีก่อน

 

บางส่วนจากบทความ : “3 ข้อต้องรู้ก่อนลงทุน เพื่อที่คุณจะได้ไม่เป็นเหยื่อ “แชร์ลูกโซ่””
โดย :
TAXBugnoms / Section : Lifestyle / Column : Smart Money for Salaryman

อ่านบทความฉบับเต็มได้ที่...วารสาร HR Society Magazine ปีที่ 20 ฉบับที่ 238 เดือนตุลาคม 2565

 
 


FaLang translation system by Faboba