นวัตกรรมเปลี่ยนโลก

โดย

 


ขณะนี้ประเทศไทยของเรากำลังมุ่งหน้าที่จะเดินไปตามโมเดล “ประเทศไทย 4.0” ที่มุ่งปรับเปลี่ยนโครงสร้าง
เศรษฐกิจไปสู่เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม จึงจะเห็นได้ว่า มีหลายองค์กรหลายสถานที่ที่มีการนำเทคโนโลยี
และนวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามาใช้เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของตนเอง และในระดับโลก ปัจจุบันนี้ก็มีความก้าวหน้า
ในด้านต่างๆ หลายด้าน ที่ไม่ช้าก็เร็วย่อมส่งผลกระทบมาถึงพวกเราทุกคนอย่างแน่นอน จึงน่าจับตามองว่า
มีนวัตกรรมอะไรที่กำลังจะมาเปลี่ยนโลกของเราบ้าง ไปดูกันครับ

Artificial intelligence (AI)
ทุกวันนี้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์พัฒนาอย่างรวดเร็วจนแทบตามไม่ทัน ล่าสุด เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ในงาน
Google I/O บริษัท Google ก็ได้โชว์ศักยภาพของฟีเจอร์ Google Assistant รุ่นใหม่ ที่ถูกพัฒนาให้มีน้ำเสียงและ
จังหวะลีลาการพูด พร้อมทั้งทักษาการพูดโต้ตอบที่เหมือนคนจริงๆ จนปลายสายไม่สามารถรู้ได้เลยว่ากำลังคุยกับ
AI อยู่ ทำให้น่าคิดว่า อีกไม่นานเราคงจะสามารถโทรคุยกับ AI ในเรื่องอื่นๆ ได้สารพัด และเหตุการณ์ที่เห็นใน
ภาพยนตร์เกี่ยวกับโลกอนาคตหลายเรื่อง ซึ่งคนไปผูกมิตรหรือตกหลุมรักกับ AI ก็คงไม่ใช่เรื่องเกินจริง

สกุลเงินดิจิทัล (Cryptocurrency)
แม้จะมีข้อถกเถียงมากมายเกี่ยวกับเงินสกุลดิจิทัล และเกิดเป็นประเด็นโต้แย้งในหลายประเทศทั่วโลก ทั้งในระดับรัฐบาล
ที่บางประเทศก็สนับสนุนเต็มที่ บางประเทศกำลังศึกษาและพัฒนาเงินสกุลดิจิทัลของตนเอง และบางประเทศก็สั่ง
ห้ามเด็ดขาด หรือในระดับประชาชน ที่มีคนจำนวนไม่น้อยวิ่งเข้าไปลงทุนกับการซื้อขายเงินดิจิทัล ขณะที่บางส่วนก็
ยังกังวลเพราะเป็นสกุลเงินที่อยู่เหนือการควบคุมของรัฐบาลและไม่มีกฎหมายฉบับใดรองรับ ซึ่งข้อถกเถียงนี้คงยังไม่มี
ข้อสรุปในเร็ววันนี้ อย่างไรก็ดี ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การเกิดขึ้นและเติบโตของสกุลเงินดิจิทัล นับเป็นนวัตกรรมที่น่า
จับตามองไม่น้อยในโลกยุคนี้

เทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติ (3D Printing)
เทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติ คือ การใช้เครื่องพิมพ์ 3 มิติขึ้นรูปชิ้นงาน โดยการเติมเนื้อวัสดุทีละชั้นๆ จนได้ออกมาเป็น
วัตถุที่ต้องการ ซึ่งก่อนหน้านี้เทคโนโลยีดังกล่าวยังคงจำกัดอยู่ในเรื่องของการผลิตสิ่งของง่ายๆ ไม่ซับซ้อน เช่น
ของเล่น เครื่องประดับ เฟอร์นิเจอร์ แต่ในช่วงเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมาเทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติได้พัฒนาแบบก้าวกระโดด
ตัวอย่างเช่น ในปี 2011 บริษัท Invetech ในประเทศออสเตรเลียสามารถผลิตเครื่อง 3D Bioprinting หรือเครื่องพิมพ์
ชีวภาพ 3 มิติเครื่องแรกของโลกได้สำเร็จ โดยเครื่องพิมพ์ดังกล่าวสามารถพิมพ์เนื้อเยื่อมนุษย์ได้โดยนำวัสดุหรือ
เซลล์ที่มีชีวิตมาเรียงซ้อนกันเพื่อสร้างเป็นรูป 3 มิติ ปี 2014 คณะวิจัยจากโรงพยาบาล Brigham and Women’s Hospital
ในรัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา ทดลองสร้างหลอดเลือดเทียมขึ้นด้วยเครื่อง 3D Bioprinting หรือในปี 2015
บริษัทผู้ผลิตเครื่องสำอางสัญชาติฝรั่งเศสอย่าง L’oreal ได้จับมือกับบริษัท Organovo พัฒนาเครื่อง 3D Bioprinting
เพื่อพิมพ์ผิวหนังมนุษย์ขึ้นสำหรับใช้ทดสอบผลิตภัณฑ์แทนการทดสอบกับคนหรือสัตว์อย่างที่เคยเป็นมา ซึ่งจากตัวอย่าง
ความสำเร็จเหล่านี้ เชื่อว่าอีกไม่นาน เทคโนโลยีนี้จะเข้ามามีบทบาทในทางการแพทย์ชนิดปฏิวัติวงการเลยทีเดียว
เช่น ผู้ที่สูญเสียอวัยวะต่างๆ หรือเกิดโรคที่ทำให้อวัยวะเสียหายใช้การไม่ได้ อาจไม่ต้องรอรับบริจาคอวัยวะอีกต่อไป
แต่สามารถใช้เครื่องพิมพ์ขึ้นรูปออกมาได้เลย

ควอนตัมคอมพิวเตอร์ (Quantum Computer)
“เร็วกว่า 100 ล้านเท่า” คือ ข้อความที่ Google Quantum Artificial Intelligence Lab เผยแพร่ในเอกสารวิชาการ
หลังเปรียบเทียบวิธีคำนวณโดยใช้ควอนตัมคอมพิวเตอร์ Google D-Wave 2X เทียบกับคอมพิวเตอร์ปกติ ซึ่งด้วยความ
เร็วขนาดนี้ หากนำมาใช้ประโยชน์ระดับทั่วไปได้จริง โลกนี้คงเปลี่ยนไปอีกมาก (ขณะเดียวกันก็อาจตกอยู่ในความเสี่ยง
ด้วย เช่น การเข้ารหัสข้อมูลต่างๆ อาจไม่ปลอดภัยอีกต่อไป) อย่างไรก็ดี การสร้างควอนตัมคอมพิวเตอร์หรือคอมพิวเตอร์
ที่ประมวลผลด้วยหลักการของฟิสิกส์ควอนตัมนั้นยังมีข้อจำกัดอย่างมาก เช่น ต้องอยู่ในอุณหภูมิที่เย็นเกือบ -273.15 องศา
เซลเซียส มีขนาดที่ใหญ่โตมโหฬาร รวมถึงการควบคุมอะตอมที่มีธรรมชาติไม่อยู่นิ่งหลายตัวให้ทำงานร่วมกันก็เป็น
โจทย์ที่ยากมากสำหรับนักวิทยาศาสตร์ ดังนั้น การจะสร้างควอนตัมคอมพิวเตอร์ให้มีความเสถียรและใช้งานในระดับทั่วไป
คงยังไม่มาถึงในอนาคตอันใกล้ แต่ก็อาจไม่นานจนไม่ทันได้เห็นก็เป็นได้ ใครจะไปรู้


อ้างอิง
https://thestandard.co/quantum-computer-1/
www.tcdc.or.th/articles/technology-innovation/23068/
https://www.beartai.com/news/itnews/71614



กองบรรณาธิการ : CLASSIFIED : LIFESTYLE
วารสาร : CPD&ACCOUNT มิถุนายน 2561


FaLang translation system by Faboba