ข้อควรระวัง…การใช้สิทธิช้อปดีมีคืนในการยื่นภาษีปีภาษี 2563 ภายในเดือนมีนาคม 2564

เงื่อนไขที่ 1 ผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่ไม่สามารถใช้สิทธินี้ได้
1. ผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่เป็นห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคล
2. สามีหรือภรรยาที่มีเงินได้ฝ่ายเดียว ให้ใช้สิทธิได้เฉพาะผู้ที่มีเงินได้
3. กรณีสามีภรรยาต่างฝ่ายต่างมีเงินได้
(ก) ต่างฝ่ายต่างยื่นรายการก็ใช้สิทธิได้ทั้ง 2 ฝ่าย
(ข) ตกลงกันยื่นรายการและเสียภาษีรวมกันโดยถือเป็นเงินได้ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก็สามารถใช้สิทธิหัก ลดหย่อน
ได้ทั้งสามีและภรรยาในการคำนวณภาษี
4. ผู้มีเงินได้ที่เป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มและได้นำใบกำกับภาษีไปหักจากภาษีขายในการคำนวณ
ภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว
5. ผู้มีเงินที่ใช้สิทธิโครงการคนละครึ่งหรือโครงการเพิ่มกำลังซื้อผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

เงื่อนไขที่ 2 ระยะเวลาในการซื้อสินค้าหรือบริการต้องอยู่ระหว่าง 23 ตุลาคม ถึง 31 ธันวาคม 2563

เงื่อนไขที่ 3 สินค้าหรือบริการที่นำมาใช้สิทธิไม่ได้
สุรา เบียร์ และไวน์ ,ยาสูบ, น้ำมัน ก๊าซสำหรับเติมยานพาหนะ, รถยนต์ รถจักรยานยนต์ และเรือ,หนังสือพิมพ์และนิตยสาร
(รวมถึงที่อยู่ในรูปอิเล็กทรอนิกส์, ค่าบริการจัดนำเที่ยวให้ธุรกิจนำเที่ยว, ค่าที่พักโรงแรมให้ธุรกิจโรงแรม

เงื่อนไขที่ 4  สินค้าหรือบริการที่ใช้สิทธินี้ได้ต้องจ่ายให้แก่ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มแต่มี
บางรายการที่ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มซึ่งสามารถใช้ใบเสร็จรับเงินระบุชื่อ นามสกุล ผู้ซื้อ
นำมาเป็นหลักฐานหักค่าลดหย่อนได้ ได้แก่
1. ค่าซื้อหนังสือแต่ไม่รวมหนังสือพิมพ์และนิตยสาร
2. ค่าบริการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบอินเตอร์เน็ตแต่ไม่รวมหนังสือพิมพ์และนิตยสาร
3. ค่าสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ที่ได้ลงทะเบียนกับกรมพัฒนาชุมชนแล้วและให้ระบุในใบรับว่าสินค้านั้น
เป็นสินค้า OTOP ด้วย

ในกฎเกณฑ์ทั้ง 4 เงื่อนไขดังกล่าวข้างต้น ผู้เขียนเห็นว่าเงื่อนไขการใช้จ่ายในกำหนดระยะเวลา 23 ตุลาคม ถึง 31 ธันวาคม
2563 และกฎเกณฑ์ที่ต้องเรียกใบกำกับภาษีมาใช้เป็นหลักฐานรวมถึงชนิดของสินค้าและบริการที่ไม่เข้าข่ายจะได้รับสิทธิ
นั้น ผู้มีเงินได้น่าจะมีความรู้ที่ได้รับการสื่อความจากการประชาสัมพันธ์ของภาครัฐ นั้นเอง