หลายคนยังไม่รู้? ซื้อประกันชีวิตหรือประกันสุขภาพใช้ลดหย่อนภาษีได้

1. ประกันชีวิตที่สามารถลดหย่อนภาษีได้ มี 2 แบบ
- ประกันชีวิตแบบทั่วไป
- ประกันชีวิตแบบบำนาญ

เงื่อนไขการลดหย่อนประกันชีวิตแบบทั่วไป
- ต้องมีระยะเวลาคุ้มครองตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป
- ต้องทำกับบริษัทประกันชีวิตในประเทศไทย
- ต้องเป็นประกันชีวิตที่มีผลตอบแทนไม่เกิน 20% ของเบี้ยรายปี
- หากมีการจ่ายเงินคืนตามช่วงระยะเวลา ต้องไม่เกิน 20% ของเบี้ยสะสมในแต่ละช่วงเวลาสามารถลดหย่อนภาษีได้ดังนี้
- ใช้ค่าเบี้ยประกันที่จ่ายไปในแต่ละปีมาลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 100,000 บาท

เงื่อนไขการลดหย่อนประกันชีวิตแบบบำนาญ
- ต้องทำกับบริษัทประกันชีวิตในประเทศไทย
- ต้องมีระยะเวลาคุ้มครองตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป
- ต้องจ่ายผลประโยชน์อย่างสม่ำเสมอ กำหนดช่วงอายุการจ่ายเงินเป็น 55-85 ปี หรือมากกว่านั้น และผู้เอาประกัน
ต้องจ่ายเบี้ยครบก่อนได้รับผลประโยชน์
สามารถลดหย่อนภาษีได้ดังนี้
- ลดหย่อนได้สูงสุด 15% ของรายได้ แต่ไม่เกิน 200,000 บาท และเมื่อนำไปรวมกับเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF)
ต้องไม่เกิน 500,000 บาท
- กรณีไม่มีมีเบี้ยประกันชีวิตแบบทั่วไปสามารถนำเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญไปหักลดหย่อนแทนได้ ซี่งจะได้
สิทธิลดหย่อนภาษีรวมสูงสุด 300,000 บาท


2. ประกันสุขภาพ มีเงื่อนไขและการลดหย่อนภาษีอย่างไร
เงื่อนไขประกันสุขภาพมีดังนี้
- คุ้มครองการรักษาพยาบาลการเจ็บป่วยและบาดเจ็บ ชดเชยการทุพพลภาพและการสูญเสียอวัยวะจากการเจ็บป่วย
หรือบาดเจ็บ
- ประกันอุบัติเหตุ คุ้มครองและชดเชยการทุพพลภาพ สูญเสียอวัยวะ และกระดูกหัก
- ประกันภัยโรคร้ายแรงและประกันภัยการดูแลระยะยาว
สามารถลดหย่อนภาษีได้ดังนี้
- ใช้ค่าเบี้ยประกันที่จ่ายไปในแต่ละปีมาลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 25,000 บาท แต่รวมกับเบี้ยประกันชีวิตลดหย่อนได้
ไม่เกิน 100,000 บาท