ถ้าใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษี มีอะไรที่ต้องระวังบ้าง?”

หนึ่งในทางเลือกของการประหยัดภาษีเงินได้ ทั้งภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และภาษีเงินได้นิติบุคคล คือ นโยบายสิทธิ
ประโยชน์ทางภาษีต่าง ๆ ซึ่งมักใช้เป็นแรงจูงใจในการใช้จ่าย หรือใช้สิทธิต่างๆ ตามที่รัฐมุ่งหมายไว้ เช่น รายจ่าย
ที่สามารถเป็นรายจ่ายทางภาษีได้เพิ่มขึ้นของนิติบุคคล รวมถึงการลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล เป็นต้น ในการใช้สิทธิ
เหล่านี้ มีสิ่งที่เราต้องระวัง ได้แก่

1. กระแสเงินสดที่หายไป จนกระทบสภาพคล่องหรือไม่
สิทธิประโยชน์เหล่านี้ มักจะเป็นสิ่งที่ต้องแลกมาด้วยเงินสดเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นค่าลดหย่อนต่าง ๆ ที่เป็นการใช้จ่าย
(เช่น ช้อปดีมีคืน) หรือการลงทุนตามเป้าหมายต่างๆ (กองทุนประหยัดภาษี) ไปจนถึงการใช้สิทธิรายจ่ายเพิ่มขึ้น 1 เท่า
2 เท่า ของนิติบุคคลก็ตาม ล้วนแต่เป็นรายการ ค่าลดหย่อน หรือรายจ่ายที่ทำให้กระแสเงินสดของธุรกิจลดลงตามไปด้วย

2. ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เพิ่มสูงขึ้น หรือต้นทุนในการวางแผนภาษีมันมากกว่าภาษีที่เราลดได้ไหม?
ในมุมของการจ่ายค่าใช้จ่ายต่างๆ (โดยเฉพาะนิติบุคคล) เราจะเห็นว่ารายจ่ายที่จ่ายไป แม้ว่าจะใช้สิทธิ์ได้มากกว่า
รายจ่ายปกติ เพราะสามารถใช้สิทธิ์คำนวณภาษีได้เพิ่มขึ้น แต่เราต้องไม่ลืมว่าการประหยัดภาษีสูงสุดนั้น ขึ้นอยู่กับอัตราภาษี
ที่นิติบุคคลต้องเสีย เช่น 20% ของกำไรสุทธิทางภาษี ดังนั้นการจ่ายรายจ่ายส่วนนี้เพิ่มขึ้นไป ก็ไม่ได้แปลว่าจะลด
รายจ่ายได้ทั้งหมด แต่มันเป็นการลดภาษีเพียงเท่านั้น

3. เราได้ข้อมูลธุรกิจที่ถูกต้องจริงไหม และมันทำให้ธุรกิจเราขาดโอกาสเติบโตหรือไม่
นอกจาก 2 ข้อที่ว่ามาแล้ว ในมุมของธุรกิจ เราอาจจะต้องพิจารณาเรื่องข้อมูลในการตัดสินใจ นั่นคือ กำไรของธุรกิจมี
การเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่ เพราะการจ่ายค่าใช้จ่ายที่ไม่ได้เกิดประโยชน์กับธุรกิจโดยตรง อาจจะไม่เหมาะสมกับการวัดผล
การดำเนินงาน ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นได้หากมีแรงจูงใจในการประหยัดภาษีมากกว่าการแสดงผลกำไรที่แท้จริงของธุรกิจ ซึ่งอาจจะ
ส่งผลกระทบกับการตัดสินใจได้เช่นกัน