- ใคร ? คือ ผู้กำหนดให้นำของเข้าคลัง เข้าเท่าไร เข้าเมื่อใด
- ตรวจรับของ ต้องตรงกับเอกสารใด หากไม่ตรง รับได้หรือไม่ของไม่
- ตรงตาม spec รับบางส่วน ทั้งหมด หรือตีกลับทำอย่างไร...ถูกต้อง
- รับของเข้าคลังแล้ว สามารถจ่ายของออกได้เลยหรือไม่ หยิบอย่างไร
- สะดวกต่อการตรวจนับ FI-FO, FE-FO, FI-LO, LI-FO เกี่ยวข้องอย่างไรกับการจ่ายสินค้า
- จัดเก็บแบบที่ “เคย” หรือ “ควร” แตกต่างกันอย่างไร
- ที่ไม่พอเก็บ ต้องใช้เพิ่มเท่าไร ที่มีอยู่ยังจำไม่ได้ หาของไม่เจอ
- และการบริหารระยะทางในการจัดเก็บ เพื่อการบริหารเวลา
รับสินค้า : Receiving
1. ใคร? คือผู้มีหน้าที่ในการรับสินค้าเข้าคลัง โดยตรง
2. เตรียมตัวอย่างไร? ในการรับสินค้าเข้าคลัง
- เครื่องมือ (Tools)
- กำลังคน (Human)
- สถานที่ (Place)
3.การตรวจสอบเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการ ตรวจรับสินค้าเข้าคลัง
- ใบสั่งซื้อ (Purchasing Order : PO)
- ใบส่งของ (Invoice)
- ใบเสร็จรับเงิน (Receipt)
- รายละเอียดของสินค้า (Packing List)
4. การวางแผนและจัดทำแผนงานการรับ สินค้าเข้าคลัง
5. ขั้นตอน กระบวนการ ในการตรวจรับ สินค้า
6. การทำรายงานการรับเข้าสินค้า (Update Receiving)
จัดเก็บสินค้า : Storage
1. แนวคิด และวิธีการแบ่งพื้นที่ (Zone) ในการจัดเก็บ
2. การหาความสัมพันธ์ระหว่างพื้นที่กับของ
3. การกำหนดรหัสที่ใช้ในการวางสินค้า (Location Code)
4. เทคนิคการนำสินค้าเข้าจัดเก็บในชั้นวาง
5. ข้อควรพิจารณาในการกำหนดจุดวาง สินค้า
6. ข้อแนะนำในการดูแลสภาพของสินค้า ขณะจัดเก็บ
จ่ายสินค้า : Pick order
1. ใคร? มีหน้าที่ในการสั่งจ่ายสินค้าออกจาก คลังสินค้า
2. เอกสารที่เกี่ยวข้องกับการจ่ายสินค้าออก จากคลังสินค้า
- เอกสารสั่งจ่าย / ใบเบิกสินค้า
- การ์ดคุมสินค้า (Bincard)
3. การหยิบสินค้าภายในคลังเพื่อสะดวกในการ ตรวจสอบความถูกต้องตามหลักฐานการจ่าย
4. การเพิ่มประสิทธิภาพงานจ่ายสินค้า ด้วย การลดระยะทาง
5. วิธีการบันทึกการจ่ายของออก Issued Update
6. วิธีปฏิบัติเมื่อมีการเบิกของ ขณะมีการตรวจ นับสินค้า ต้องจ่ายของอย่างไร
7. SKU: Stock Keeping Unit กับ การรับ-จ่ายสินค้า
- SKU คืออะไร ? มีประโยชน์อย่างไร ต่อการรับ-จ่ายสินค้า
- SKU กับปัญหาที่เกิดขึ้นในการเบิกจ่าย สินค้า
- วิธีการแก้ไขปัญหาในการจัดทำ SKU