มนุษย์เงินเดือน+ขายของออนไลน์ เสียภาษีอย่างไร?
โดย
|
ทำไมต้องเสียภาษี? หลักการที่เข้าใจได้ง่ายที่สุด คือ มีรายได้ = ต้องยื่นภาษี ขายของออนไลน์ = มีรายได้ = ต้องยื่นภาษี
มีงานประจำทำและขายของออนไลน์ไปด้วยต้องเสียภาษีอย่างไร? เช่น นาย A เป็นมนุษย์เงินเดือนมีอาชีพเสริมขายของออนไลน์ จะแยกประเภทเงินได้เป็น - เงินเดือนของนาย A เข้าเงินได้พึงประเมินประเภท 40 (1) เงินได้เนื่องจากการจ้างแรงงาน - รายได้ที่ได้จากการขายของออนไลน์ เข้าเงินได้พึงประเมินประเภท 40(8) เงินได้จากการธุรกิจ การพาณิชย์ จากตัวอย่างข้างต้นนาย A มีรายได้ทั้งเงินเดือนและการขายของออนไลน์นาย A ต้องเอารายได้ทั้งสองประเภท รวมกันแล้วยื่นภาษีในชื่อของนาย A โดยยื่นด้วยแบบ ภ.ง.ด. 90
การคำนวณภาษีแต่ละประเภท ตามประมวลกฎหมายรัษฎากร มาตรา 40(8) กฎหมายกำหนดเพิ่มเติมไว้ ว่ารายได้ตามมาตรา 40(8) ซึ่งรายได้ จาการขายของออนไลน์เข้าตามประเภทนี้ จะต้องเสียภาษีปีละสองครั้งแบ่งเป็น - ภาษีครึ่งปี (ภ.ง.ด94) - ภาษีทั้งปี (ภ.ง.ด.90)
สูตรการคำนวณภาษีด้วยตัวเอง วิธีการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาปกติจะมีวิธีคิดอยู่ 2 วิธี แต่จะยกมาแค่วิธีเดียวที่สามารถคำนวณได้ง่ายๆ คือ (เงินได้ - ค่าใช้จ่าย - ค่าลดหย่อน) x อัตราภาษี เมื่อเราได้สูตรการคำนวณภาษีมาแล้วก็ลองแทนตัวเลขลงไปได้เลย ซึ่งเงินเดือนสามารถหักได้ 50% ของรายได้ แต่ได้ไม่เกิน 100,000 บาท (ประมวลกฎหมายรัษฎากร มาตรา 42ทวิ) ส่วนการขายของออนไลน์สามารถหัก ค่าใช้จ่ายได้สองแบบ คือแบบเหมาจ่าย 60% (เหมาะสำหรับกิจการแบบซื้อมาขายไป) และ แบบหักค่าใช้จ่าย ที่เกิดขึ้นจริง (เหมาะสำหรับกิจการที่ผลิตเองขายเอง)
เราไม่ลืมเรื่องภาษีมูลค่าเพิ่มกันใช่มั้ย? การขายสินค้ากับเรื่องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มนี่เป็นของคู่กันจริงๆนะคะ หลายคนอาจสงสัยว่าหากมีรายได้เข้ามาเยอะ เกิน 1,800,000 บาทต่อปีต้องจด VAT หรือไม่ หลักการง่ายๆจำได้ขึ้นใจ หากมีรายได้เข้ามาเกินล้านแปดเมื่อไหร่ต้องจด VAT อย่างแน่นอนค่ะ หากถามหา เหตุผลว่าทำไมต้องจดตอบได้อย่างเดียวเลยคือ “กฎหมายกำหนดไว้ให้จด” เพราะถ้าเป็นการขายสินค้าหรือ การให้บริการที่ไม่ได้รับสิทธิยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มเมื่อเกิน 1.8 ล้านบาทต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มทุกรณีค่ะ
|
เกร็ดความรู้กับธรรมนิติ : มนุษย์เงินเดือน+ขายของออนไลน์ เสียภาษีอย่างไร?
|
|