LINE...Well-being Workplace

โดย

 

 


HR Society Magazine ฉบับนี้ได้รับเกียรติจาก ดร.พิเชษฐ ฤกษ์ปรีชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO)
ไลน์ ประเทศไทย
ให้เกียรติมาพูดคุยถึงแนวทางการบริหารธุรกิจ วัฒนธรรมองค์กร รวมถึงการดูแลพนักงานให้มี
ความผาสุก (Well-Being) ซึ่งเปรียบเสมือนแม่เหล็กดึงดูดคนรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพสูงให้เข้ามาร่วมงาน และทำให้ไลน์
เป็นหนึ่งในบริษัทเทคโนโลยีและดิจิทัลในประเทศไทย ที่ติดโผอันดับต้นๆ ของการสำรวจองค์กรที่คนรุ่นใหม่อยาก
ทำงานด้วยเสมอ 

3 จุดแข็ง...พิชิตใจผู้ใช้บริการ
ดร.พิเชษฐ เผยถึงจุดแข็งที่ทำให้ไลน์ สามารถสร้างความโดดเด่นและได้รับความนิยม จนมีผู้ใช้บริการในประเทศไทย
มากถึง 46 ล้านคน ว่า...
“ผมคิดว่าจุดแข็งหรือปัจจัยหลักๆ ที่ทำให้ไลน์ประสบความสำเร็จ มี 3 เรื่อง คือ
1) รู้จักตลาด เราถือว่าเราเป็น Tech Company ต่างชาติที่รู้จักตลาดประเทศไทยค่อนข้างดี ผมคิดว่านั่นเป็นปัจจัยหนึ่ง
ที่ทำให้เราประสบความสำเร็จ เราไม่ได้เป็น Chat Application แรก แต่เราน่าจะเป็น Chat Application ที่ประสบ
ความสำเร็จมากที่สุดในประเทศไทย
2) บริการตอบโจทย์การใช้ชีวิตประจำวันของทุกคน เราจะพูดถึงเสมอเรื่องของ Life On LINE ซึ่งเป็นแนวคิดที่
ไลน์จะเข้าไปอยู่ในทุกไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวันของผู้บริโภค ซึ่งเราเชื่อว่าบริการของเราตอบโจทย์ตรงนั้นได้ ไม่ได้
หมายความว่าใน 24 ชั่วโมงต้องอยู่แต่บนไลน์ แต่หมายความว่าถ้าหากผู้ใช้บริการของเราจะทำอะไรภายใน 1 วัน LINE
จะต้องตอบโจทย์เขาได้
3) บริการใช้ง่าย ซึ่งผมคิดว่าน่าจะเป็นส่วนที่สำคัญที่สุด บริการเราต้องใช้ง่าย เพราะจะทำให้เราเข้าถึงผู้ใช้บริการ
ส่วนใหญ่ได้”

พนักงานต้องผาสุก (Well-being)
“ผมคิดว่า Well-being เป็นเรื่องที่ค่อนข้างสำคัญ นอกจากเรื่องของความท้าทายในการทำงาน เราให้ความสำคัญมาก
กับเรื่องของชีวิตครอบครัว เรื่องของ Work Life Balance ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากมาก หลายๆ ที่พูดกันถึงเรื่อง Work Life
Balance ซึ่งไม่ใช่แค่การมีเตียงไว้ให้นอน ไม่ใช่แค่มีนักนวดกายภาพ แต่มันเป็นเรื่องของการมีความยืดหยุ่นในการให้
เขาคิดและการใช้ชีวิตด้วย 
พนักงานเราบางคนเวลางานเร่งด่วน เช่น จะจัดงานอีเว้นต์ก็อยู่กันถึงตี 3 ตี 4 แต่เราก็มีหลายๆ อย่างให้ เช่น ถ้าคุณต้อง
ทำงานวันเสาร์ก็สามารถเก็บไว้เป็นวันลาเพิ่มได้ หรืออย่างเรื่องของ Maternity Leave นอกจากผู้หญิงจะลาคลอด
ได้แล้ว ถ้าภรรยาท้องและคลอดลูก สามีสามารถลาดูแลภรรยาและลูกหลังคลอดได้ด้วย วันนี้เราพยายามจะทำให้เป็น
ขั้นต่อไป เช่น  มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้สำหรับแม่ลูกอ่อน ซึ่งช่วงแรกที่ต้องกลับมาทำงานต้องปั๊มนม เราก็มีห้องปั๊มนม
และมีตู้แช่ไว้ให้ด้วย เป็นต้น จริงๆ อยากทำเนอสเซอรี่มากแต่พื้นที่ของเราไม่เพียงพอแล้ว”

เปิดใจให้กว้าง...ทางสู่ความสำเร็จ
“ผมว่าเราอยู่ในโลกที่ไม่จำเป็นต้องทำงานในสายที่ตัวเองจบมาเท่านั้น ด้วยปริมาณข้อมูลที่มีอยู่ทั่วๆ ไปทุกวันนี้ คนเรา
สามารถทำงานมากกว่า 1 อย่างได้ในชีวิตตัวเอง อย่างผมทำงานที่ไลน์แต่ในขณะเดียวกันผมก็มีธุรกิจส่วนตัวด้วย ซึ่งเป็น
เรื่องที่ผมคิดว่าสองอย่างมันช่วยกันและกัน ในมุมมองของการทำงานบริษัทใหญ่ แล้วก็มีมุมมองของคนทำธุรกิจเล็กๆ
เข้ามาช่วยด้วย
จริงๆ ผมว่าคนทำงานต้องหาอะไรที่ตัวเองชอบ หรือถ้าไม่แน่ใจก็หาสิ่งที่เราสนใจ อย่าไปคิดว่าขอบเขตการทำงานของเรา
ต้องจบที่ใดที่หนึ่ง ผมว่าทุกวันนี้ทุกอย่างมันเชื่อมโยงถึงกันได้หมด”

จากนโยบายการบริหารและวัฒนธรรมองค์กรของไลน์ คงเป็นเครื่องยืนยันได้ว่า ความผาสุก (Well-being) ในการทำงาน
และการใช้ชีวิตของพนักงาน ส่งผลโดยตรงต่อขวัญและกำลังใจ รวมไปถึงผลการปฏิบัติงานและความก้าวหน้าขององค์กร
อย่างเป็นรูปธรรม 


  บางส่วนจากบทความ  “LINE...Well-being Workplace”
  อ่านบทความเต็มได้ใน... วารสาร HR Society magazine ปีที่ 17 ฉบับที่ 210 เดือนมิถุนายน 2563



Cover Story : กองบรรณาธิการ
วารสาร : HR Society Magazine มิถุนายน 2563



FaLang translation system by Faboba