แนวปฏิบัติทางภาษีอากร ในกรณีที่นายจ้างให้ลูกจ้างอยู่บ้านโดยไม่เสียค่าเช่า
|
ในกรณีที่นายจ้างให้ลูกจ้างอยู่บ้านโดยไม่เสียค่า กรมสรรพากรจึงกำหนดหลักเกณฑ์ไว้ดังต่อไปนี้ 1. กรณีลูกจ้างได้อยู่บ้านของนายจ้างโดยไม่เสียค่าเช่า ให้คำนวณประโยชน์เพิ่มจากการนี้เป็น เงินได้พึงประเมินใน อัตราร้อยละ 20 ของเงินเดือนหรือค่าจ้างรวมทั้งเงินเพิ่มตลอดปี (ถ้ามี) โดยไม่รวมเงินโบนัสที่จ่ายเป็นรายปี 2. กรณีลูกจ้างหลายคนได้อยู่บ้านของนายจ้างหลังเดียวอยู่รวมกันโดยไม่เสียค่าเช่า ให้คำนวณประโยชน์เพิ่มตามเกณฑ์ ใน ข้อ1 เป็นเงินได้พึงประเมินของลูกจ้างแต่ละคน ในกรณีที่นายจ้างให้ลูกจ้างอยู่บ้านฟรีโดยไม่เสียค่าเช่า แต่ให้อยู่รวมกันหลายคนในบ้าน นายจ้างจะต้องนำเงินเดือนของ ลูกจ้างแต่ละคนซึ่งมีจำนวนอาจจะไม่เท่ากัน มาแยกคำนวณ 20% ของเงินได้ทั้งปีของลูกจ้างแต่ละรายด้วย
3. กรณีลูกจ้างหลายคนได้บ้านของนายจ้างหลังเดียวอยู่รวมกันโดยไม่เสียค่าเช่าตาม (1) ไม่ว่าจะเป็นการโต้แย้งในชั้น การตรวจสอบไต่สวนหรือในชั้นอุทธรณ์ก็ตาม ให้เจ้าพนักงานประเมินทำการประเมินค่าเช่าของบ้านนั้นๆ ว่าสมควรให้เช่าได้ ตามปกติปีละเท่าใด และให้ทำบันทึกการประเมินไว้เป็นหลักฐาน แล้วรายงานขอความเห็นชอบจากอธิบดีกรมสรรพากร และให้ถือว่าค่าเช่าบ้านที่ได้ทำการประเมินนี้เป็นเงินได้ของลูกจ้างที่จะนำมาทำการประเมินหรือพิจารณาชี้ขาดของเจ้าหน้าที่ ผู้พิจารณาอุทธรณ์ แล้วแต่กรณี และให้ถือเป็นเกณฑ์ในการคำนวณเงินได้ในปีภาษีต่อไปด้วย เว้นแต่มีข้อเท็จจริงหรือ สภาพของบ้านเปลี่ยนแปลงไป 4. กรณีลูกจ้างหลายคนได้อยู่บ้านของนายจ้างตาม (3) หลังเดียวอยู่รวมกัน ให้เฉลี่ยค่าเช่าบ้านที่ประเมินได้ตามข้อ 3. เป็นเงินได้ของลูกจ้างแต่ละคนตามส่วนของเงินเดือน หรือค่าจ้างรวมทั้งเงินเพิ่มตลอดปี (ถ้ามี) โดยไม่รวมเงินโบนัสที่จ่าย เป็นรายปี และให้ถือว่าค่าเช่าบ้านที่ได้ทำการประเมินนี้เป็นเงินได้ของลูกจ้างที่จะนำมาทำการประเมินหรือพิจารณาชี้ขาดของ เจ้าหน้าที่ผู้พิจารณาอุทธรณ์แล้วแต่กรณี และให้ถือเป็นเกณฑ์ในการคำนวณเงินได้ในปีภาษีต่อไปด้วย เว้นแต่มีข้อเท็จจริง หรือสภาพของบ้านเปลี่ยนแปลงไป 5. กรณีลูกจ้างได้อยู่บ้านของนายจ้างโดยไม่เสียค่าเช่าและเป็นบ้านที่นายจ้างได้ไปเช่าจากบุคคลอื่นมา อีกต่อหนึ่ง ให้ คำนวณประโยชน์เพิ่มจากการนี้เป็นเงินได้พึงประเมินตามค่าเช่าที่นายจ้างได้จ่ายไปจริง กรณีที่บ้านที่นายจ้างให้ลูกจ้างอยู่บ้านฟรี ไม่ใช่บ้านของนายจ้าง แต่นายจ้างได้ไปเช่ามาให้ลูกจ้างอยู่โดย ไม่คิดค่าเช่า เช่น นายจ้างจ่ายค่าเช่าบ้านนี้ไปเป็นเงินเดือนละ 20,000 บาท ให้ถือว่าเงินที่นายจ้างได้จ่ายไปเพื่อเช่าบ้านให้ลูกจ้าง อยู่ฟรีนั้น เป็นเงินได้ของลูกจ้างทั้งจำนวนที่นายจ้างได้จ่ายไปจริง
6. กรณีลูกจ้างหลายคนได้บ้านของนายจ้างตาม (5) อยู่รวมกัน ให้เฉลี่ยค่าเช่าบ้านที่นายจ้างได้จ่ายไปจริงตาม (5) เป็น เงินได้ของลูกจ้างแต่ละคนตามส่วนของเงินเดือนหรือค่าจ้าง รวมทั้งเงินเพิ่มตลอดปี (ถ้ามี) โดยไม่รวมเงินโบนัสที่จ่ายเป็น รายปี เมื่อนายจ้างได้จ่ายค่าเช่าบ้านเพื่อนำมาให้ลูกจ้างได้อยู่ฟรี โดยไม่คิดค่าเช่า มูลค่าทั้งหมดที่นายจ้างได้จ่ายจริง ให้ถือเป็นเงินได้ของลูกจ้างในปีภาษีนั้น ในกรณีที่ลูกจ้างอยู่บ้านหลายคนรวมกัน ให้นำมูลค่าที่นายจ่ายได้จ่ายจริงมาเฉลี่ย ตามสัดส่วนของเงินเดือนของลูกจ้างแต่ละคน
บางส่วนจากบทความ “อยู่บ้านฟรี ต้องเสียภาษีเงินได้” อ่านบทความฉบับเต็มได้ใน... วารสาร CPD & Account ปีที่ 18 ฉบับที่ 210 เดือนมิถุนายน 2564 |
Tax Talk : Tax Accounting : สมเดช โรจน์คุรีเสถียร วารสาร : CPD&ACCOUNT มิถุนายน 2564
|