บัญชีพิเศษแสดงการหักภาษี ณ ที่จ่ายและการนำส่งภาษี

โดย

 


 
บัญชีพิเศษแสดงการหักภาษี ณ ที่จ่ายและการนำส่งภาษี

          บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลเมื่อมีการจ่ายค่าใช้จ่ายต่าง ๆ มีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย แล้วนำส่งกรมสรรพากรภายในวันที่ 7 ของเดือนถัดไป และได้กำหนดให้ผู้มีหน้าที่หักภาษีเงินได้หรือภาษีการค้า ณ ที่จ่าย ตามประมวลรัษฎากร มีบัญชีพิเศษแสดงการหักภาษี ณ ที่จ่ายและการนำส่งภาษี และให้กรอกข้อความในบัญชีดังกล่าว ดังต่อไปนี้

          1. ให้ผู้มีหน้าที่หักภาษีเงินได้หรือภาษีการค้า ณ ที่จ่าย ตามประมวลรัษฎากร มีบัญชีพิเศษแสดงการหักภาษี ณ ที่จ่าย และการนำส่งภาษี และบัญชีพิเศษดังกล่าวอย่างน้อยต้องมีข้อความตามแบบแนบท้ายประกาศนี้

          2. การกรอกข้อความในบัญชีพิเศษดังกล่าว สำหรับรายการการหักภาษี ณ ที่จ่าย ให้แยกเป็น 2 กรณี คือ กรณีตามมาตรา 3 เตรส แห่งประมวลรัษฎากรแห่งหนึ่ง และกรณีอื่น ๆ อีกกรณีหนึ่ง ส่วนรายการการนำส่งภาษีให้แยกตามใบเสร็จรับชำระภาษีอากรของกรมสรรพากรเป็นรายฉบับ

          3. วิธีการกรอกข้อความในบัญชีพิเศษให้ปฏิบัติดังต่อไปนี้
                    (1) กรอกรายการหักภาษี ณ ที่จ่าย โดยรวมจำนวนเงินหักภาษี ณ ที่จ่าย ประจำวันของแต่ละกรณีตามข้อ 2 โดยให้แยกเป็นรายการหักจากบุคคลธรรมดาหรือบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลและกรอกรายการการนำส่งภาษีประจำวัน โดยให้แยกตามใบเสร็จรับชำระภาษีอากรของกรมสรรพากรเป็นรายฉบับ เรียงลำดับก่อนหลังตามวันที่มีการหักภาษี ณ ที่จ่าย หรือการนำส่งภาษี
                    (2) เมื่อสิ้นวันสุดท้ายของเดือนให้รวมยอดจำนวนเงินหักภาษี ณ ที่จ่าย และจำนวนภาษีที่นำส่งแล้วทั้งสิ้นในเดือนนั้นของแต่ละรายการด้วย

          4. การกรอกข้อความในบัญชีพิเศษให้ทำเป็นภาษาไทย ถ้าทำเป็นภาษาต่างประเทศให้มีภาษาไทยกำกับส่วนตัวเลขจะใช้เลขไทยหรือเลขอารบิคก็ได้ หรือจะลงเป็นรหัสด้วยเครื่องจักรทำบัญชีก็ได้ แต่ต้องส่งคำแปรรหัสเป็นภาษาไทยต่อเจ้าพนักงานประเมินสำหรับท้องที่สำนักงานของผู้มีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่าย นั้นตั้งอยู่
          การกรอกข้อความตามวรรคหนึ่ง ต้องให้แล้วเสร็จภายใน 3 วันทำการ นับแต่วันถัดจากวันที่รายการดังกล่าวเกิดขึ้น

          5. ให้ผู้มีหน้าที่หักภาษีเงินได้หรือภาษีการค้า ณ ที่จ่าย เก็บรักษาบัญชีพิเศษดังกล่าวไว้ไม่น้อยกว่า 5 ปีที่สำนักงานที่มีการจ่ายเงินได้ และพร้อมที่จะให้เจ้าพนักงานประเมินตรวจสอบได้ทันที

          6. กรณีดังต่อไปนี้ ไม่อยู่ในบังคับตามประกาศนี้
                    (1) การจ่ายเงินที่มีการตั้งฎีกาเบิกเงินจากคลัง
                    (2) การจ่ายดอกเบี้ยเงินฝาก ดอกเบี้ยตั๋วเงินของธนาคาร สหกรณ์ บริษัทตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ หรือสถาบันการเงินที่มีกฎหมายโดยเฉพาะของประเทศไทยจัดตั้งขึ้นสำหรับให้กู้ยืมเงินเพื่อส่งเสริมเกษตรกรรม พาณิชยกรรม หรืออุตสาหกรรม
                    (3) กรณีการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ซึ่งอยู่ในบังคับต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย และต้องนำส่งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ผู้รับจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมในขณะที่มีการจดทะเบียน
                    (4) กรณีอื่นตามที่อธิบดีกรมสรรพากรประกาศกำหนด

 

บางส่วนจากบทความ : “บัญชีพิเศษตามประมวลรัษฎากรที่ต้องจัดทำ”
โดย : สมเดช โรจน์คุรีเสถียร Section : Tax Talk / Column : Tax & Accounting

อ่านบทความฉบับเต็มได้ที่...วารสาร CPD & Account ปีที่ 18 ฉบับที่ 227 เดือนพฤศจิกายน 2565

 
 


FaLang translation system by Faboba