แพลตฟอร์มออนไลน์ส่งข้อมูลให้สรรพากร พ่อค้าแม่ค้าต้องเตรียมพร้อมอย่างไร

       ในปี 2567 นี้ พ่อค้าแม่ค้าที่ขายของออนไลน์ต้องเตรียมตัวรับความเปลี่ยนแปลง เพราะสรรพากรได้ออกกฎหมายเพื่อติดตามผู้ค้าที่อยู่นอกระบบภาษีให้เข้ามาอยู่ในระบบให้มากขึ้น พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ต้องเตรียมตัวรับมืออย่างไรบ้าง ?

       ที่มาของกฎหมาย
       การขายของบนแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง Shopee, Lazada หรือ TikTok Shop สร้างโอกาสให้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์มียอดขายได้มากอย่างไม่น่าเชื่อ แพลตฟอร์มออนไลน์เปลี่ยนคนธรรมดาให้กลายเป็นเศรษฐี มีเงินซื้อบ้านซื้อรถ มีเงินใช้หนี้ให้พ่อแม่ มีกินมีใช้ มีเกียรติมีศักดิ์ศรี เปลี่ยนชีวิตให้ใครหลาย ๆ คนมาแล้ว แต่ประเด็นสำคัญที่เกิดขึ้นและหลายคนมองข้ามก็คือ การขายของผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์มีรายละเอียด มีรายงาน มีสรุปยอดจากแพลตฟอร์มออนไลน์ ซึ่งหลาย ๆ คนมองข้ามไปและไม่สนใจ พร้อมกับคำว่า “ภาษี”

       หลายปีนี้โดยเฉพาะช่วงเหตุการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 การขายของออนไลน์เติบโตขึ้นแบบก้าวกระโดด แต่จำนวนพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่เข้าระบบภาษีกลับไม่ได้เพิ่มแบบก้าวกระโดดตามไปด้วย อาจเป็นเพราะบางคนก็ไม่รู้เรื่องภาษีเลย หรือรู้แต่ก็ตั้งใจจะหลบภาษี หรือบางคนรู้และอยากทำภาษีให้ถูกต้อง แต่ก็ทำเองไม่เป็น

       เมื่อกฎหมายกำหนดหน้าที่ให้ผู้มีรายได้ต้องยื่นแบบแสดงรายได้ แต่พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่เพิ่มขึ้นกลับไม่ได้ทำให้ตัวเลขของผู้ที่ยื่นแบบแสดงรายได้ต่อกรมสรรพากรเพิ่มขึ้นเลย กรมสรรพากรจึงต้องทำหน้าที่ติดตามพ่อค้าแม่ค้าที่อยู่นอกระบบภาษีให้เข้ามาอยู่ในระบบ ทั้งนี้ เพื่อความเป็นธรรมกับคนที่เสียภาษีในระบบอย่างถูกต้อง ซึ่งข้อมูลที่จะทำให้กรมสรรพากรตรวจสอบภาษีได้ถูกต้องขึ้นก็คือ “รายงานหรือข้อมูลที่เกิดจากการค้าขายจริง” ที่เกิดขึ้นบนแพลตฟอร์มออนไลน์ทั้งหลาย เพราะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดการค้าขายขึ้นจริง รู้ตัวคนขายและยอดขายชัดเจนด้วย

       ผลต่อพ่อค้าแม่ค้าบนแพลตฟอร์ม
       เนื่องจากประกาศฯ นี้มีผลใช้บังคับตั้งแต่ 1 ม.ค. 2567 เป็นต้นไป ดังนั้นข้อมูลของพ่อค้าแม่ค้าทุกรายบนแพลตฟอร์มเหล่านี้จะเริ่มถูกบันทึกในบัญชีพิเศษตลอดทั้งปี 2567 และจะถูกส่งให้กรมสรรพากรภายใน 150 วัน นับแต่วันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชี เช่น หากเป็นรอบปกติสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2567 จะถูกนำส่งกรมสรรพากรภายใน 30 พฤษภาคม 2568 ทั้งนี้ โดยปกติแล้ว บุคคลธรรมดาจะต้องยื่นภาษีเงินได้ ภ.ง.ด.91 หรือ ภ.ง.ด.90 ประจำปี 2567 เป็นกระดาษภายในวันที่ 31 มีนาคม 2568 หรือยื่นออนไลน์ภายในวันที่ 8 เมษายน 2568 ดังนั้นการยื่นภาษีของพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์จึงมาถึงก่อนกำหนดการส่งบัญชีพิเศษของแพลตฟอร์ม และเมื่อข้อมูลไปถึงมือกรมสรรพากรแล้ว แต่ในภายหลังพบว่าแม่ค้ารายนั้นไม่ได้ยื่นภาษีเลยหรือยื่นต่ำกว่าข้อมูลที่กรมสรรพากรมี พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์รายดังกล่าวอาจได้รับจดหมายหรือได้รับหนังสือนำตัวเข้ามาตรวจสอบ หรืออาจได้รับหมายเรียกจากกรมสรรพากร เพื่อให้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ได้มาชี้แจงสาเหตุและชำระภาษีอย่างถูกต้อง ครบถ้วนต่อไป

       จากการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนี้ จึงอยากให้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์เริ่มต้นทำบัญชีและเตรียมตัวยื่นภาษีกันให้ถูกต้อง ครบถ้วน เพราะมิเช่นนั้นแล้ว กำไรที่เคยทำมาค้าขายมาได้นั้นอาจจะหมดไปเพราะเรื่องภาษี ซึ่งคงไม่คุ้มกันอย่างแน่นอน